fbpx
โลโก้ Pararin Publishing – สำนักพิมพ์ที่สร้างสรรค์หนังสือให้กำลังใจและพัฒนาตัวเอง จากการเรียนรู้สิ่งที่เคยพลาด

Pararin Publishing ตั้งใจเขียนทุกบทความให้คุณได้อ่านแบบไม่มีโฆษณากวนใจ

เพราะเราอยากให้คุณได้อ่านบทความดี ๆ อย่างเต็มที่ ถ้าคุณรู้สึกว่าเนื้อหาของเรามีคุณค่า

สนับสนุนเราได้ด้วยการซื้ออีบุ๊ค หรือร่วมสมทบตามใจคุณ

เพราะทุกการสนับสนุนของคุณ คือพลังที่ทำให้เราสร้างเนื้อหาดี ๆ ได้ตลอดไป

ในโลกของนิยาย มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนวางไม่ลง — ไม่ใช่เนื้อเรื่องซับซ้อน ไม่ใช่ฉากเฉลยหักมุม แต่คือ “อารมณ์ร่วม” ที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเหมือนโดนลากเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นจริง ๆ และถ้ามันคือฉากระทึกขวัญ ฉากหลอน ฉากไล่ล่า หรืออะไรก็ตามที่ทำให้หัวใจเต้นแรง นักเขียนก็ต้องลงไปอยู่ในความรู้สึกนั้นให้ถึงก่อน ถึงจะเขียนออกมาให้คนอ่านรู้สึกได้ว่ามัน จริง

นักเขียนหลายคนมักเข้าใจผิดว่าแค่ใช้คำว่า “กลัว”, “ใจเต้น”, หรือ “ขนลุก” ก็เพียงพอแล้วสำหรับการสร้างฉากหลอนหรือความระทึก นั่นแหละปัญหา เพราะถ้าคุณรู้สึกแค่นั้น มันก็แค่บอก ไม่ใช่ทำให้ เกิด ความรู้สึก คนอ่านไม่กลัวเพราะคุณบอกว่ากลัว แต่จะกลัวเพราะ “เขาเห็น” ว่าตัวละครกำลังเผชิญกับบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ไม่สามารถควบคุมได้ และไม่มีที่ให้หนี

การเขียนความกลัวให้คนอ่านรู้สึก ต้องใช้มากกว่าคำว่า “กลัว”

คุณต้องเปลี่ยนจากการบรรยายเป็นการ “จำลองความรู้สึก” ให้คนอ่าน เข้าไปอยู่ในร่างของตัวละคร วิธีที่เวิร์กจริง ๆ สำหรับนักเขียนมืออาชีพหลายคน คือการเริ่มจาก “การจำลองสภาพร่างกายก่อนจิตใจ” เช่น ไม่ต้องเริ่มจากคำว่า “เขากลัวจนหัวใจเต้นแรง” แต่ให้เริ่มจาก “เสียงลมหายใจของตัวเองมันเริ่มดังขึ้นกว่าปกติ แปลกที่เขาไม่ได้พยายามหายใจแรง แต่ลมมันกลับออกมาเป็นจังหวะที่ขาด ๆ หาย ๆ เหมือนคนที่กำลังพยายามข่มความสั่น” …ประโยคแบบนี้ มันบอกสิ่งเดียวกันว่ากลัว แต่คนอ่าน เห็นภาพ ชัดกว่ามาก

เทคนิคอีกอย่างที่นักเขียนควรฝึกคือ “การจำกัดมุมมอง” ลองนึกถึงฉากในหนังสยองขวัญที่เราเห็นแค่บางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด การเขียนก็เหมือนกัน ยิ่งบอกน้อย แต่บอกตรงจุด ความระทึกจะยิ่งเพิ่มขึ้น เช่น ถ้าตัวละครเดินเข้าไปในห้องมืดที่เงียบเกินไป อย่าเพิ่งบรรยายว่าเขาเจออะไร ใช้จังหวะการบรรยายให้ช้าลง เช่น “ฝ่าเท้าสัมผัสกับพื้นที่เย็นกว่าปกติ ผนังด้านข้างไม่ได้เรียบแต่กลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างเคลื่อนไหวเบา ๆ เหมือนลมหายใจคน…”

คนอ่านจะเริ่มถามในใจว่า มันคืออะไร?, ทำไมมันเย็น?, ใครอยู่ในนั้นกับเขา? — แล้วคุณก็พาเขาไปต่อ โดยยังไม่ต้องเฉลยทันที

นักเขียนมือใหม่มักพลาด เพราะพยายาม “บอก” มากกว่า “พาไปอยู่ตรงนั้น”

สิ่งที่เจอบ่อยในต้นฉบับของนักเขียนมือใหม่คือการเร่งรีบ อยากให้ผู้อ่านรู้ว่ามันหลอน มันระทึก ก็เลยบรรยายรวดเดียวทุกอย่างออกมา เช่น “เขาเดินเข้าไปในบ้านร้างที่มืดและมีเสียงลึกลับ จากนั้นเห็นผีโผล่มา เขาตกใจกลัวสุดขีดจนวิ่งหนี” …ประโยคนี้บอกทุกอย่าง แต่คนอ่านไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะมันเร็วเกินไป ไม่มีจังหวะ ไม่มีช่องว่างให้สมองสร้างภาพหรือจินตนาการร่วม

งานของนักเขียนไม่ใช่แค่ “เล่าเรื่อง” แต่ต้อง “ชวนให้รู้สึก” และการทำให้รู้สึกต้องใช้จังหวะ ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรบอก เมื่อไหร่ควรเก็บ เมื่อไหร่ควรบีบ และเมื่อไหร่ควรปล่อย มันเหมือนการคุมอุณหภูมิในหม้อ ความหลอนที่เขียนดีจะไม่ได้เริ่มจากการเจอผี แต่เริ่มจากความรู้สึกว่า “อะไรมันไม่ปกติ” และนั่นแหละคือพื้นที่ที่คุณต้องกล้าลงไปเขียน

Pararin Publishing ตั้งใจเขียนทุกบทความให้คุณได้อ่านแบบไม่มีโฆษณากวนใจ

เพราะเราอยากให้คุณได้อ่านบทความดี ๆ อย่างเต็มที่ ถ้าคุณรู้สึกว่าเนื้อหาของเรามีคุณค่า

สนับสนุนเราได้ด้วยการซื้ออีบุ๊ค หรือร่วมสมทบตามใจคุณ

เพราะทุกการสนับสนุนของคุณ คือพลังที่ทำให้เราสร้างเนื้อหาดี ๆ ได้ตลอดไป