fbpx
โลโก้ Pararin Publishing – สำนักพิมพ์ที่สร้างสรรค์หนังสือให้กำลังใจและพัฒนาตัวเอง จากการเรียนรู้สิ่งที่เคยพลาด

Pararin Publishing ตั้งใจเขียนทุกบทความให้คุณได้อ่านแบบไม่มีโฆษณากวนใจ

เพราะเราอยากให้คุณได้อ่านบทความดี ๆ อย่างเต็มที่ ถ้าคุณรู้สึกว่าเนื้อหาของเรามีคุณค่า

สนับสนุนเราได้ด้วยการซื้ออีบุ๊ค หรือร่วมสมทบตามใจคุณ

เพราะทุกการสนับสนุนของคุณ คือพลังที่ทำให้เราสร้างเนื้อหาดี ๆ ได้ตลอดไป

ทำไมถึงอยากลาออก…แต่ก็ยังไม่กล้าก้าวออกไป?

หลายคนอยากออกจากงานเดิม แต่ไม่ได้เกลียดงาน ไม่ได้ทะเลาะกับหัวหน้า ไม่ได้มีปัญหาเงินเดือน เพียงแค่รู้สึกว่า “ชีวิตมันต้องมีอะไรมากกว่านี้” แต่พอคิดจะไปจริง ๆ คำถามแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวคือ

“แล้วเราจะไปทำอะไร?”

“เรามีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นเขาบ้าง?”

มันไม่ได้เป็นความกลัวว่าชีวิตจะลำบากหลังลาออก แต่เป็นความกลัวว่าจะ “ไม่มีตัวตนที่ชัดเจน” หลังจากไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอีเมลบริษัท ไม่มีงานประจำให้เกาะ

ปัญหาคือเราไม่รู้เลยว่า ความพิเศษของเราคืออะไร ไม่เคยลองไล่เรียงมันอย่างจริงจัง มีแต่อารมณ์หม่น ๆ ว่าเบื่อ ๆ เหนื่อย ๆ และอยากไปให้ไกลจากที่เดิม แต่ก็ไม่มีปลายทางให้เดินไปหา

เพราะเราเคยชินกับการมองตัวเองผ่านตำแหน่ง

เราถูกสอนให้ตอบคำถามว่า “คุณทำงานอะไร?” ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ และพอทำงาน เราก็ตอบได้ด้วยชื่อตำแหน่งบนบัตรพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น Admin, Sales, HR, Marketing, หรือ Developer มันง่ายกว่าการบอกว่า “เราคือคนแบบไหนกันแน่”

และเพราะเราใช้เวลาหลายปีในการเป็น “สิ่งนั้น” เราก็เลยเชื่อว่านั่นคือตัวตนของเราโดยสมบูรณ์ จนลืมมองว่า เบื้องหลังชื่อตำแหน่ง เราอาจเป็นคนที่มีทักษะเฉพาะที่แอบแฝงอยู่ หรือมีคุณสมบัติที่คนอื่นมองว่าโดดเด่นแต่เราไม่เคยเห็น

การประเมินตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะถ้าต้องคิดคนเดียว

เวลาคนรอบตัวถามว่า “ถ้าออกแล้วจะไปทำอะไร?” เรามักจะนิ่ง เพราะไม่รู้จะตอบยังไง และการพยายามนั่งประเมินตัวเองแบบเงียบ ๆ มักจบลงที่การเปิด Netflix หรือสั่งอาหารมากินให้ลืม ๆ ไป

มันไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรือไม่มีความคิด แต่เพราะการ “ขุดลึก” ลงไปในตัวเองมันเหนื่อยมาก มันกระทบกับความมั่นใจ และบางครั้งก็เปิดแผลที่เราซ่อนเอาไว้ เช่น ความรู้สึกว่าเราไม่เก่งพอ ไม่เด่นพอ หรือไม่มีอะไรให้น่าสนใจพอจะเริ่มใหม่

แล้ว ChatGPT เกี่ยวอะไร? มันไม่ได้รู้จักเรานี่

จริงอยู่ GPT ไม่ได้รู้จักเราจริง ๆ แต่ถ้าเราพูดกับมัน “ถูกวิธี” มันจะช่วยเราไล่เรียงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเราได้เหมือนมีผู้ช่วยที่มีความอดทนและวิเคราะห์เก่งที่สุดในโลก มันไม่ตัดสิน ไม่ขัดจังหวะ และไม่เหนื่อยที่จะตอบคำถามซ้ำ ๆ ให้กับเรา

ChatGPT จะไม่มีวันบอกว่า “คุณพิเศษ” ถ้าเราไม่พูดกับมันให้ถูกต้อง แต่ถ้าเราป้อนข้อมูลที่ดีพอ และใช้ ประโยคคำสั่ง (prompt) ที่เหมาะสม มันสามารถช่วยเราแยกแยะว่า

  • เราเคยทำอะไรที่น่าสนใจมาแล้วบ้าง
  • เรามีทักษะที่ใช้ได้ในบริบทอื่น ๆ หรือเปล่า
  • เราพูดเก่ง ฟังเก่ง หรือเข้าใจคนรอบข้างได้ดีแค่ไหน
  • มีสายงานไหนบ้างที่ต้องการคนแบบเรา แม้เราจะไม่ได้มีประสบการณ์ตรง
ไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ต้องมีไอเดียที่ชัดมาก ก็เริ่มได้

หลายคนกลัวว่า ChatGPT จะตอบได้เฉพาะคนที่ถามดี ๆ แบบเก่ง ๆ หรือมีไอเดียที่ชัดเจนก่อน แต่ความจริงคือ เราสามารถเริ่มจากแค่เล่าชีวิตให้มันฟัง เหมือนคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง และค่อย ๆ ให้มันช่วยสรุป วิเคราะห์ และมองเห็นโครงสร้างที่เรามองไม่เห็น

ยิ่งเราให้ข้อมูลละเอียด มันก็จะช่วยเราวิเคราะห์ได้ดีขึ้น เหมือนให้ใครสักคนมาช่วยจัดตู้เสื้อผ้าที่เราขี้เกียจรื้อทุกวัน และอยู่ดี ๆ มันก็เจอเสื้อดี ๆ ที่เราลืมไปว่ามีอยู่

สิ่งพิเศษอาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่คุณทำเป็นประจำ

  • บางคนอาจชอบจัดไฟล์ให้เพื่อน
  • บางคนชอบทำลิสต์ทุกอย่างก่อนเดินทาง
  • บางคนเก่งเรื่องเล่าให้คนอื่นเข้าใจง่าย หรือช่วยคลี่คลายเรื่องยุ่งให้ทีม

สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนไม่พิเศษ แต่ถ้า GPT ช่วยเราตีความให้ดี มันจะชี้ให้เห็นว่า ทักษะนั้นสามารถเอาไปใช้ในอีกหลายอาชีพ หรือสร้างบริการใหม่ ๆ ได้มากกว่าที่คิด

แล้วถ้าลาออกแล้วไม่รุ่งล่ะ?

ไม่มีใครรับประกันว่าลาออกแล้วจะสำเร็จ แต่ที่แน่ ๆ คือ ถ้าเราเริ่มต้นจากการ “เข้าใจสิ่งที่มีอยู่แล้ว” และ “รู้ว่าเรามีต้นทุนอะไรในมือ” เราจะไม่เดินแบบมืดสนิท

ChatGPT ไม่ใช่คำตอบ แต่มันคือเครื่องมือที่ช่วยให้เราคุยกับตัวเองได้เก่งขึ้น และบางครั้งมันก็คือคนที่เราต้องการให้ถามเราในมุมที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน

จุดเริ่มต้นคือการใช้ “ประโยคคำสั่ง (prompt)” ให้มันเข้าใจเราจริง ๆ

หนังสือ “ChatGPT ทำได้มากกว่าที่คุณเคยคิด” รวมไว้แล้วว่าเราต้องเริ่มต้นยังไง พูดยังไงให้มันเข้าใจตัวเราจริง ๆ และช่วยเรามองเห็นสิ่งที่เราไม่กล้ามอง

มันไม่ใช่การใช้ AI เพื่อเอาชนะโลก แต่มันคือการใช้ AI เพื่อมองให้ลึกลงในตัวเอง แล้วเดินออกจากที่เดิม ด้วยความเข้าใจและมั่นใจว่า

“เราไม่ได้ไร้ค่า เราแค่ยังไม่เคยมีใครช่วยจัดระเบียบสิ่งที่เรามีให้เห็นภาพชัด ๆ เท่านั้นเอง”

หากคุณอยากเริ่ม แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ให้หนังสือเล่มนั้นเป็นไกด์ของคุณ เพราะมันไม่ได้แค่รวม ประโยคคำสั่ง (prompt) ที่ใช้ได้จริง แต่มันสร้างขึ้นจากชีวิตของคนที่เคยหมดไฟ เหนื่อย และไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมาก่อน…เหมือนคุณในตอนนี้.

Pararin Publishing ตั้งใจเขียนทุกบทความให้คุณได้อ่านแบบไม่มีโฆษณากวนใจ

เพราะเราอยากให้คุณได้อ่านบทความดี ๆ อย่างเต็มที่ ถ้าคุณรู้สึกว่าเนื้อหาของเรามีคุณค่า

สนับสนุนเราได้ด้วยการซื้ออีบุ๊ค หรือร่วมสมทบตามใจคุณ

เพราะทุกการสนับสนุนของคุณ คือพลังที่ทำให้เราสร้างเนื้อหาดี ๆ ได้ตลอดไป