บางคนไม่ได้ขี้เกียจวางแผนชีวิต แต่แค่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนต่างหาก ตอนเด็กเรามีคำตอบง่าย ๆ เวลาครูถามว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” แต่พอโตจริง ๆ กลับไม่มีใครมาถามแบบนั้นอีก หรือบางทีมีคนถาม แต่เราไม่มีแรงจะตอบ เพราะยังเอาเรื่องของวันนี้ไม่รอดเลย แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปคิดถึงอนาคต สมองเรารู้สึกยุ่งเหยิงเหมือนห้องเก็บของที่ไม่ได้จัดมาเป็นสิบปี อยากจะเก็บให้เป็นระเบียบ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
พอจะเริ่ม ก็สับสนไปหมดว่าอะไรสำคัญ อะไรควรทิ้ง อะไรควรเก็บ ความคิดไหลมาทุกทาง บางเรื่องอยากทำ บางเรื่องควรทำ บางเรื่องจำเป็นต้องทำ แต่ทั้งหมดนี้กลับกลายเป็นก้อนเดียวกันในหัว จนเราเลือกจะปล่อยไว้เฉย ๆ แทนที่จะจัดมันให้ชัดขึ้น แล้วมันก็วนซ้ำอยู่แบบนั้นทุกวัน…
การวางแผนชีวิตไม่ใช่แค่การตั้งเป้าหมาย แต่มันคือการรู้ว่าเรายืนอยู่ตรงไหนของแผนที่ชีวิตตอนนี้ หลายคนอยากวางแผน อยากมีเป้าหมาย อยากรู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน แต่ปัญหาใหญ่ที่แท้จริงคือ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “ตอนนี้” เราอยู่ตรงไหน ความคิดในหัวมันรกรุงรังเกินไป
ถ้าเราพูดกับ GPT ให้ถูก มันจะไม่ทำตัวเป็นหมอดู ไม่ใช่นักพัฒนาศักยภาพ แต่มันจะทำตัวเหมือนคนช่วยจัดห้องที่ดี ถามทีละคำถาม แยกทีละกอง สิ่งที่เคยเป็นความคิดวุ่นวาย ก็ค่อย ๆ ถูกแยกออกมา ลองนึกภาพห้องเก็บของที่เคยมีทุกอย่างกองรวมกัน พอมีคนช่วยเอาออกมาเรียงทีละอย่าง แล้ววางแยกหมวดหมู่ให้ดูชัด ๆ ว่า
เราจะเริ่มเห็นว่าเรื่องในหัวเรานั้นไม่ใช่ก้อนเดียวที่จัดการไม่ได้ แต่มันแค่ยังไม่ได้ถูกแยกออกมาให้เราดูต่างหาก
ถ้าเห็นภาพรวมได้ เราจะรู้ว่าต้องเดินยังไงต่อ แม้ไม่มีใครนำทางให้เลยก็ตาม สิ่งที่ GPT ทำให้ได้ คือภาพรวม บางครั้งชีวิตมันไม่ได้ต้องการใครสักคนมาชี้ทางให้ แค่มีใครสักคนที่ช่วยให้เราเห็นว่าบนโต๊ะมีอะไรวางอยู่บ้างก็พอแล้ว พอเราเริ่มเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญ และอะไรคือสิ่งที่เราทำได้ อะไรคือสิ่งที่ควรเก็บไว้เป็นแผนระยะยาว
เราจะเริ่มมีแรงคิดเรื่องอนาคตได้โดยไม่รู้ตัว การวางแผนชีวิตไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ บางทีมันเริ่มจากแค่การสรุปว่า ตอนนี้เราทำอะไรอยู่ เรามีอะไรในมือ เรายังขาดอะไร และเราจะเริ่มเติมสิ่งเหล่านั้นยังไง
GPT จะไม่เติมให้เรา แต่มันช่วยไล่เรียงให้เราเห็นขาดเห็นเกิน แล้วการวางแผนก็จะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป
ชีวิตที่ไม่เป็นระเบียบไม่ใช่ความล้มเหลว แต่มันคือเรื่องธรรมดา ที่ต้องการการช่วยจัดแค่เล็กน้อย
เราอาจถูกสอนให้ต้องรู้จักวางแผนให้ดี ต้องมีเป้าหมายชัด ต้องมีแผนสำรอง ต้องคิดให้รอบ ต้องลงมือให้ไว ต้องสำเร็จให้เร็ว แต่ในความจริงของคนธรรมดา
เราทุกคนเคยมีห้องเก็บของรก ๆ อยู่ในหัว และแค่มีใครสักคนที่ช่วยเปิดไฟให้ เห็นอะไรชัดขึ้น ก็พอจะทำให้เรากลับมาวางแผนอะไรได้อีกครั้ง
ให้เริ่มจาก “ดูว่าเรามีอะไรอยู่ในหัวตอนนี้” แล้วค่อย ๆ แยกมันออกมา จัดลำดับ จัดหมวดหมู่ สร้างภาพรวม จากนั้นจึงค่อยเริ่มเรียงอนาคตของเราทีละชั้น ChatGPT ไม่ใช่คนที่รู้จักคุณดีที่สุด แต่มันคือคนที่พร้อมจะนั่งตรงข้ามคุณ แล้วถามคำถามที่ช่วยให้คุณ “คิดออก”
ว่าจริง ๆ แล้วชีวิตตอนนี้ควรเริ่มจากตรงไหน และถ้าคุณไม่รู้จะพูดยังไง
หนังสือ “ChatGPT ทำได้มากกว่าที่คุณเคยคิด” จะช่วยคุณเริ่มบทสนทนานั้น ด้วย ประโยคคำสั่ง (prompt) ที่ออกแบบมาให้ GPT เข้าใจคนที่กำลัง “คิดไม่ออก” โดยเฉพาะ เพราะการวางแผนชีวิตที่ดี ไม่ได้เริ่มจากการรู้ว่าต้องไปไหน แต่มันเริ่มจากการ “มองเห็นตัวเองชัดขึ้น” ต่างหาก