บางทีสิ่งที่เจ็บที่สุดอาจไม่ใช่ความล้มเหลวที่เราเจอ แต่มันคือการรู้สึกว่าคนอื่นกำลังไปได้ดี ในขณะที่เรายังวนอยู่กับที่ ทุกครั้งที่เปิดมือถือ เราเจอเพื่อนที่ได้เลื่อนตำแหน่ง คนรู้จักที่ได้ทุนเรียนต่อ รุ่นน้องที่ได้รางวัล รุ่นพี่ที่มีธุรกิจรุ่งเรือง หรือแม้แต่คนที่เคยแย่กว่าเรายังไปไกลกว่าที่เราคิดไว้ แล้วเราล่ะ? ทำไมถึงยังไม่ไปไหนสักที
หลายคนไม่รู้จะเริ่มตรงไหน บางคนลงมือไปบ้างแล้วแต่หลงทาง บางคนคิดจนเหนื่อยแต่ยังไม่ได้เริ่ม และบางคนยอมรับเงียบ ๆ ว่าตัวเอง “คงไม่เก่งพอ” ตั้งแต่แรก ทั้งที่ในความเป็นจริง มันอาจไม่ใช่เรื่องของความเก่งเลยด้วยซ้ำ
ในโลกที่ทุกอย่างดูเหมือนวิ่งเร็วขึ้นทุกวัน ไม่มีใครรอให้เราค่อย ๆ คิด ไม่มีเวลาพอให้เราหาจังหวะชีวิตของตัวเอง แต่ถ้าคุณเคยรู้สึกแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ลองถามตัวเองให้ชัดก่อนว่าคุณไม่มี “ความสามารถ” จริงหรือแค่ยัง “ไม่มีแผน” ที่ชัดเจนกันแน่
เราทุกคนมีสิทธิ์เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แต่ถ้าเราทำแบบนั้นทุกวัน โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะเดินไปทางไหนต่อ มันจะไม่ใช่แค่ความน้อยใจ แต่มันจะกลายเป็นความรู้สึกหมดแรงแบบไม่มีเหตุผล การที่เรารู้สึกว่า “อยู่ที่เดิม” ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีศักยภาพ แต่มันอาจหมายถึงเรายังไม่ได้จัดลำดับเรื่องในหัวให้มันชัดว่าเราควรทำอะไรก่อน
คนจำนวนมากมีของดีอยู่ในตัว แต่ใช้ไม่เป็น มีเป้าหมายอยู่บ้าง แต่ไม่มีขั้นตอน มีความฝัน แต่ไม่เคยแยกออกมาเป็นแผนที่จับต้องได้ สิ่งที่ GPT ช่วยได้จริง ๆ ไม่ใช่การเปลี่ยนชีวิตเราแบบวิเศษทันที แต่มันช่วยเราวาง “จังหวะชีวิต” ทีละขั้น
ถ้าคุณสังเกตดี ๆ คนที่ดูเหมือนประสบความสำเร็จหลายคนไม่ได้เริ่มจากสิ่งใหญ่โตเลย บางคนแค่รู้จังหวะของตัวเองดีพอ พอถึงเวลาเหมาะ ก็ลงมือถูกที่ พอรู้ว่าควรหยุดพัก ก็ไม่ฝืน พอเข้าใจว่าอะไรควรทำก่อนหลัง ทุกอย่างมันเลยค่อย ๆ ต่อยอดขึ้นมา
GPT อาจไม่ได้ทำให้คุณเก่งขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่มันช่วยให้คุณรู้ว่า วันนี้คุณควรเริ่มจากตรงไหน สิ่งที่คุณอยากทำต้องใช้ทักษะอะไร ต้องเตรียมอะไรล่วงหน้า ต้องแบ่งเวลาแบบไหน และต้องเอาอะไรมาต่อกันให้เป็นแผนได้บ้าง
ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มยังไง แค่ลองคุยกับ GPT เหมือนคุยกับผู้ช่วยที่ไม่ตัดสินคุณ และมันจะพยายามลำดับให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น ถ้าคุณให้ข้อมูลมันมากพอ สิ่งที่คุณเคยคิดว่ารก มั่ว สับสน มันจะค่อย ๆ ถูกเรียงใหม่ให้เดินได้จริง
สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่อยากวางแผน หรือไม่กล้าปรึกษาคนอื่น ก็คือความกลัวว่าจะถูกตัดสิน กลัวว่าความคิดเราจะถูกมองว่าตลก เพ้อฝัน หรือไม่มีวันเป็นจริง ความกลัวเหล่านี้ทำให้เรายิ่งเก็บทุกอย่างไว้ในหัว แล้วปล่อยให้มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ
GPT ไม่ได้เข้าใจทุกอย่างในโลกนี้ แต่มันไม่เคยหัวเราะใส่คุณ ไม่เคยเหนื่อยที่ต้องฟังเรื่องซ้ำ ๆ และไม่เคยปฏิเสธที่จะช่วยวางแผนชีวิตคุณ ถ้าคุณสื่อสารกับมันดีพอ และแน่นอนว่า ประโยคคำสั่ง (prompt) ที่ดีคือหัวใจของทุกอย่าง ซึ่งมีรวมไว้แล้วในหนังสือ ChatGPT ทำได้มากกว่าที่คุณเคยคิด เพื่อให้คุณได้เริ่มจากจุดที่ใช่
หลายคนไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เพราะไม่รู้จะเอามันไปทำอะไรต่อ ทั้งความถนัด ทักษะ งานอดิเรก หรือแม้แต่ประสบการณ์แย่ ๆ ก็มีค่าถ้าเราเอามาใช้ถูกเวลา
GPT จะไม่ตัดสินว่าความรู้ที่คุณมีมันพอหรือไม่ แต่มันจะช่วยคุณต่อจิ๊กซอว์ของชีวิตให้เข้ารูป ชี้ให้เห็นว่าสิ่งไหนนำไปใช้ได้ทันที สิ่งไหนควรเก็บไว้ฝึกเพิ่ม สิ่งไหนควรทิ้ง แล้วมันจะช่วยวางเส้นทางที่เหมาะกับคุณ จากของที่คุณมี ไม่ใช่จากของที่คุณขาด
หยุดเปรียบเทียบก็จริง แต่เรายังต้องหาวิธีเดินของเราให้เจอ เพราะสุดท้ายชีวิตมันไม่ได้แข่งกันที่ใครเร็ว แต่แข่งกันที่ใครไปถึงเป้าหมายของตัวเองแบบมั่นคง
GPT คือผู้ช่วยที่พร้อมจะเดินข้าง ๆ คุณ ไม่ตัดสิน ไม่เร่ง ไม่กดดัน และพร้อมช่วยลำดับทุกความคิดในหัว ให้กลายเป็นแผนที่ชัดขึ้นทุกวัน
ขอแค่คุณเริ่มต้นพูดกับมันให้เข้าใจ และถ้ายังไม่รู้จะเริ่มยังไง
หนังสือ ChatGPT ทำได้มากกว่าที่คุณเคยคิด มี ประโยคคำสั่ง (prompt) ที่ทำให้ GPT เข้าใจชีวิตคุณได้ลึกขึ้น พอที่จะช่วยคุณเริ่มเดินอีกครั้ง แบบที่ไม่ต้องวิ่งตามใครเลย