มีคนจำนวนมากที่เคยซื้อสมุดแพลนเนอร์มาแล้วไม่เคยเปิดใช้ มีไฟล์ Excel วางแผนชีวิตที่ไม่เคยถูกเปิดดูเลยนอกจากตอนสร้าง มีโพสต์ตั้งเป้าหมายในปีใหม่แต่ลบไปก่อนสงกรานต์จะมาถึง และที่แย่กว่านั้นคือคนที่พยายาม “ตั้งเป้า” จนหมดแรง ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ แต่เพราะมันเหมือนการหลอกตัวเองมากกว่าการสร้างแผนจริง ๆ

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เราไม่อยากวางแผน ปัญหาคือเราเบื่อกับความพยายามที่ดูดีแต่ไม่ได้ใช้จริง เบื่อกับการบังคับตัวเองให้คิดเป็นขั้นตอนทั้งที่ข้างในเรายังสับสนอยู่ เบื่อกับคำพูดปลุกใจที่ไม่ได้ช่วยให้เรากล้าเดิน และเบื่อกับการวาดภาพอนาคตแบบพยายามจะเป็นคนเก่ง ทั้งที่ตอนนี้แค่เอาตัวให้รอดยังแทบไม่ไหว

โลกของแพลนเนอร์มันดูเรียบร้อยเกินไปสำหรับคนที่ยังคิดไม่ออกว่าเป้าหมายของตัวเองจริง ๆ คืออะไร จะให้วางแผน 1 ปี 3 ปี 5 ปี ทั้งที่ทุกเช้าเรายังไม่รู้จะกินข้าวหรืออดมื้อเช้าอีกวัน มันไม่ใช่แค่เหนื่อย แต่มันกลายเป็นความรู้สึกผิดที่เรายังจัดระเบียบชีวิตตัวเองไม่ได้

แต่ความจริงคือ…ไม่จำเป็นต้องฝืนใช้วิธีที่ไม่เหมาะกับเราอีกต่อไปแล้ว

ChatGPT ไม่ใช่แพลนเนอร์ แต่มันช่วยคิดแทนได้ในจุดที่เราไม่ไหว

การวางแผนชีวิตจริง ๆ ไม่ได้เริ่มต้นจากการตั้งเป้าใหญ่ ๆ แบบ “อยากมีบ้าน อยากมีเงินล้าน อยากประสบความสำเร็จ” แต่มันเริ่มจากการรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ตรงไหน รู้สึกยังไง มีอะไรอยู่ในมือ และไม่อยากเป็นอะไร

สิ่งที่ทำให้หลายคนล้มเหลวในการวางแผนชีวิต ไม่ใช่เพราะเขาขาดเป้าหมาย แต่เพราะเขาขาด “ตัวช่วยที่ไม่ตัดสิน” ในระหว่างการไล่เรียงความคิดต่างหาก

บางคนอาจมีภาพเลือน ๆ ของชีวิตที่อยากได้ แต่พอเริ่มลงมือเขียนก็รู้สึกว่าทุกอย่างดูเพ้อเจ้อเกินจริง บางคนพอเห็นตัวเลขในแผน Excel ก็เริ่มตระหนักว่า “ไม่มีวันไปถึง” แล้วก็ปิดไฟล์นั้นตลอดกาล

ในมุมนี้ ChatGPT ไม่ได้มาแทนแผนที่ แต่มันช่วยเราปะติดปะต่อสิ่งที่เรามีอยู่ และเสนอ “เส้นทางที่ไปได้จริง” ให้เรามองเห็นแบบไม่ต้องวาดเองทั้งหมด มันไม่ใช่ AI ที่เก่งที่สุดในโลก แต่มันเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เราสามารถโยนความสับสน ความรู้สึกไม่แน่ใจ หรือความอยากเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในหัวมาวางไว้ และให้มันช่วยเราวางหมุดหมายแรกให้เดินต่อได้

วางแผนโดยไม่หลอกตัวเอง มันต้องเริ่มจากการ “ไม่ต้องเก่งก่อน แล้วค่อยวางแผน”

จุดอ่อนของการตั้งเป้าหมายด้วยตัวเอง คือเรามักจะอยากตั้งเป้าให้มันดูดีพอให้คนอื่นภูมิใจ ดูจริงจังพอให้เรารู้สึกว่าชีวิตมีทิศทาง และดูยิ่งใหญ่พอจะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองมีค่า แต่พอเป้านั้นใหญ่เกินไป เราจะเริ่มหนีมัน และความรู้สึกพ่ายแพ้ก็จะตามมาแบบอัตโนมัติ

สิ่งที่ ChatGPT ทำได้ดีคือ มันไม่อายที่จะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ มันไม่เคยตั้งคำถามว่า “แค่นี้เองเหรอ” หรือ “ทำไมเป้าเธอดูเล็กจัง” มันแค่ช่วยเราวางระบบตามข้อมูลที่เราบอกมันไป และมันจะเสนอเส้นทางที่เหมาะกับ “ระดับพลังที่เรามีจริง” ไม่ใช่ระดับพลังที่เราอยากแกล้งมี

ลองคิดดูว่า ถ้าเราบอก GPT ไปว่าตอนนี้เราทำงานเงินเดือนน้อย รู้สึกหมดไฟ ไม่แน่ใจว่าอยากทำอะไรต่อดี มันจะไม่ตอบด้วยคำว่า “ออกไปทำตาม Passion สิ” แต่มันจะเริ่มจากการช่วยเรารวบรวมสิ่งที่เราทำได้ดี สิ่งที่เราพอใจได้ในแต่ละวัน แล้วค่อย ๆ สกัดออกมาเป็นเป้าหมายเล็ก ๆ ที่พอทำได้ ไม่หลอกตัวเอง ไม่หลอกใคร และยังพอมีแรงจะไปต่อได้

ไม่ต้องมีแพลนเนอร์ ไม่ต้องซื้อ Excel เทพ ๆ แค่รู้ว่าจะคุยกับมันยังไง

หลายคนเคยเสียเงินซื้อแพลนเนอร์สวย ๆ ซื้อคอร์สวางแผนชีวิตจากโค้ชมืออาชีพ แต่ยังคงรู้สึกหลงทาง เพราะข้างในยังว่างเปล่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนจริง ๆ

สิ่งที่ต่างออกไปเมื่อใช้ ChatGPT อย่างถูกวิธี คือมันไม่มีต้นทุนอื่นเลยนอกจาก “ความกล้าที่จะเล่าความจริง” และ “ประโยคคำสั่ง (prompt)” ที่เข้าใจตัวเองพอจะบอก AI ว่าเราต้องการให้มันช่วยอะไร

คุณไม่ต้องมีประสบการณ์ คุณไม่ต้องรู้ศัพท์แสงพัฒนาแอป หรือทฤษฎีวางแผนชีวิตจากฮาร์วาร์ด คุณแค่ต้องรู้ว่าตอนนี้คุณเหนื่อยกับอะไร เบื่อกับอะไร อยากเปลี่ยนอะไร และยังไหวกับอะไร แล้วพิมพ์ลงไปให้มันฟังอย่างตรงไปตรงมา

สิ่งที่ได้กลับมาจะไม่ใช่แผนชีวิตหรูหรา แต่มันจะเป็น “ความชัดเจนในแบบที่เราเข้าใจตัวเองขึ้นนิดหนึ่ง” และนั่นมากพอจะเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนที่ยั่งยืนจริง ๆ

ไม่มีใครวางแผนชีวิตเก่งตั้งแต่วันแรก แต่มันพัฒนาได้ด้วยเครื่องมือที่เข้าใจเรา

ไม่ว่าใครจะบอกคุณว่า การวางแผนชีวิตเป็นเรื่องง่าย คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อ คุณอาจจะล้มเลิกกลางทางหลายครั้ง คุณอาจจะเบื่อจนไม่อยากหยิบปากกาขึ้นมาอีกเลย แต่นั่นไม่ใช่จุดจบ มันแค่เป็นสัญญาณว่าคุณอาจจะต้องเปลี่ยน “เครื่องมือ”

ChatGPT ไม่ใช่เครื่องมือที่ดีที่สุดในโลก แต่มันอัปเดตตลอดเวลา มันไม่เคยเบื่อฟัง และมันไม่มีวันตัดสินคุณ

ถ้าคุณรู้ว่าจะให้มันช่วยยังไง มันสามารถกลายเป็น “คู่คิด” ที่คอยสังเคราะห์คำตอบออกจากข้อมูลในหัวคุณ ช่วยไล่เรียงสิ่งที่เราคิดวนมานานให้กลายเป็นทางเลือกที่จับต้องได้ และช่วยเรารักษาสมดุลระหว่าง “ความฝัน” กับ “ข้อจำกัด” ได้อย่างพอดี

และถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากประโยคแบบไหน ไม่ต้องห่วง เพราะในหนังสือ ChatGPT ทำได้มากกว่าที่คุณเคยคิด เราได้รวบรวม ประโยคคำสั่ง (prompt) สำหรับคนที่อยากเริ่มวางแผนชีวิตโดยไม่หลอกตัวเองไว้แล้วทั้งหมด

คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชีวิตในวันนี้ แค่เริ่มคิดได้ชัดขึ้นก็พอ เพราะการวางแผนอนาคตที่ดี ไม่ได้เริ่มจากเป้าหมายใหญ่ แต่เริ่มจากการ “ฟังตัวเองให้เข้าใจ” แล้วค่อยเดินทีละก้าว…ร่วมกับเครื่องมือที่ไม่เคยทิ้งเราไปไหนเลยตั้งแต่วันแรก.