คุณอาจเคยคิดว่า “ยา ปลุก อารมณ์” เป็นแค่คำล้อเล่น หรือของที่ใช้ในเรื่องลับ ๆ เฉพาะกลุ่ม แต่คุณอาจไม่รู้เลยว่ามันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ถูกใช้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อควบคุมคนแบบเนียน ๆ และอันตรายถึงขั้นล้มชีวิตใครบางคนได้ภายในไม่กี่นาที แค่คุณเผลอไว้ใจผิดคนในสถานที่ที่คุณคิดว่าควรจะสนุกได้เต็มที่ เช่น ผับ บาร์ หรือร้านเหล้า.
สิ่งที่น่ากลัวของ “ยา ปลุก อารมณ์” หรือยาที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทหลายชนิด คือมันไม่มีสี ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสัญญาณเตือน และไม่ได้ถูกใช้เพื่อเรื่องเซ็กส์อย่างเดียว แต่มันถูกใช้เพื่อให้คุณ “ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้” หรือแย่กว่านั้นคือ “หมดสิทธิ์ตัดสินใจใด ๆ” ไปเลย.
บางคนโดนหยอดยาในแก้วที่เพื่อนใหม่ซื้อให้ บางคนแค่เดินไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาดื่มต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางคนรู้สึกเบลอ หน่วง หนักหัว แต่คิดว่าเป็นเพราะดื่มเยอะ แล้วก็พาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่หลุดจากการควบคุม.
จำไว้ให้ดีว่า คนร้ายไม่จำเป็นต้องใช้กำลังหรืออาวุธ เขาใช้แค่ “ความไว้ใจของคุณ” เป็นอาวุธหลัก ยา ปลุก อารมณ์ ไม่ได้ปลุกแค่ความรู้สึก แต่มันปลุกให้คุณ “กลายเป็นเหยื่อ” โดยที่คุณไม่รู้เลยว่าโดนอะไร.
ยาแบบนี้ไม่ได้เลือกเพศ ไม่ได้เลือกอายุ ไม่ได้เลือกว่าคุณแต่งตัวยังไง มันเลือกแค่จังหวะที่คุณเผลอ หรือไว้ใจใครบางคนเร็วเกินไปเท่านั้นเอง และคนที่ใช้มันก็ไม่ได้มีหน้าตาน่ากลัวแบบในหนัง พวกเขามักยิ้มดี มีมารยาท และรู้วิธีเข้าหา.
ถ้าคุณอยู่ในวงสังสรรค์ หรือออกไปเที่ยวกลางคืน อย่าปล่อยแก้วไว้ห่างตัว อย่าให้ใครเติมเครื่องดื่มให้ ถ้าคุณไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าเขารินมาจากไหน อย่ารับเครื่องดื่มที่คุณไม่ได้สั่งเอง แม้แต่จากเพื่อนของเพื่อน หรือคนที่บอกว่า “ผมแค่เลี้ยงแก้วเดียว”.
อย่าลืมว่าคนที่คุณเพิ่งเจอในคืนนี้ ยังไม่เคยอยู่กับคุณตอนคุณแย่ ไม่เคยผ่านความเป็นความตายกับคุณ และไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร เขาไม่ควรได้รับสิทธิ์ในการ “วางบางอย่างลงในแก้วของคุณ” ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม น้ำแข็ง หรือ ยา ปลุก อารมณ์.
และถ้าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นจริง—คุณรู้สึกว่าเบลอ มึน ง่วงผิดปกติ หรือร่างกายตอบสนองช้าลงกว่าปกติ—รีบหาที่ปลอดภัย รีบบอกคนที่ไว้ใจได้ หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่โดยเร็ว อย่ากลัวว่าเรื่องจะดูน่าอาย เพราะสิ่งที่คุณกำลังเผชิญมันร้ายแรงกว่าเรื่องหน้าตาหรือศักดิ์ศรีมากนัก.
“ยา ปลุก อารมณ์” ไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ของหื่น ๆ ตลก ๆ แต่มันคือเครื่องมืออาชญากรรมที่ใช้ “ความเงียบของเหยื่อ” เป็นเกราะกำบัง.
คุณไม่ต้องกลายเป็นคนหวาดระแวง แต่คุณต้องกลายเป็นคนที่ “รู้ทัน” เพราะการรู้ทัน คือสิ่งเดียวที่คนร้ายควบคุมไม่ได้ และมันอาจเป็นสิ่งเดียวที่ปกป้องคุณในคืนหนึ่งที่คุณแค่ “ออกไปสนุกตามปกติ”.