ถ้าคุณยังคิดว่า “เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น” หรือ “แค่คนธรรมดาใครจะมาหลอกอะไรเรา” นั่นแหละคือจุดที่พวกมันเข้ามาได้ง่ายที่สุด เพราะแก๊งฟอกเงินมันไม่ได้หาเหยื่อที่รวย มันหาเหยื่อที่ ไม่ระวัง แค่คุณมีบัญชีธนาคาร มีโทรศัพท์ และไม่ถามอะไรมาก—คุณก็เป็นเป้าหมายในลิสต์พวกมันแล้วเรียบร้อย ต่อให้คุณไม่ได้ตั้งใจจะช่วยมันฟอกเงิน แต่ถ้าคุณทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการรับบทบัญชีม้าแบบสมบูรณ์ แล้วเวลาคดีเปิด คุณคือคนที่ “มีหลักฐานชัดเจน” ที่สุด เพราะทุกอย่างอยู่ในชื่อคุณ

อย่ารู้จักใครผ่านข้อความ แล้วยอมเปิดใจให้เขามากกว่าคนข้างบ้าน

แก๊งคอลเซนเตอร์รู้ดีว่าความเหงากับความไว้ใจมันมาคู่กัน พวกมันไม่ได้เริ่มต้นจากการขอเลขบัญชี แต่มาด้วยคำว่า “เป็นห่วง” “เราคลิกกันดีนะ” หรือ “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก” แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นคนที่ขอให้คุณช่วยรับเงิน ช่วยเทรดแทน ช่วยสมัครบัญชี หรือช่วยจ่ายค่าธรรมเนียมล่วงหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ การหลอกลวงมันเริ่มจากความสัมพันธ์แบบนี้ทั้งนั้น คนที่ไม่เคยแม้แต่จะไปกินข้าวด้วยกัน แต่ขอให้คุณช่วยโอนเงิน—นี่คือสัญญาณไฟแดงที่คุณต้องหนีให้ไว ไม่ใช่แค่ตั้งข้อสงสัย

ถ้าคุณได้เงินแบบไม่รู้ที่มา จงคิดทันทีว่า “เงินนี้อาจฆ่าคุณทางกฎหมาย”

การที่จู่ ๆ มีเงินเข้าบัญชีคุณ แล้วมีคนโทรมาบอกให้คุณช่วยโอนต่อ ไม่ว่าคำอธิบายจะดูดีแค่ไหน เช่น “เงินค่ารักษา”, “โอนผิด”, หรือ “เป็นเงินจากลูกค้า” คุณไม่มีวันรู้เลยว่าเงินก้อนนั้นเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินหรือไม่ และถ้าคุณกดโอนต่อแม้แต่ครั้งเดียว คุณกลายเป็นบัญชีม้าโดยสมบูรณ์ แก๊งฟอกเงินไม่ต้องบอกว่าคุณรู้เห็น แค่คุณมี “พฤติกรรมรับ-โอน” ต่อเนื่อง แค่นั้นก็เพียงพอให้โดนข้อหาหนัก คุณอาจคิดว่า “แค่ช่วย” แต่ศาลไม่ได้คิดแบบนั้น และในคดีจริง คนที่ติดคุกคือลูกโซ่ปลายทาง—ไม่ใช่ตัวหัวหน้าแก๊งที่ไม่มีใครจับได้

อย่าทำอะไรโดยไม่เข้าใจ อย่าเชื่ออะไรที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงชัดเจน

พวกธุรกิจสีเทา หรือขบวนการหลอกโอนเงิน จะใช้วิธีสร้าง “แพลตฟอร์ม” ที่ดูเหมือนลงทุน แต่จริง ๆ แล้วแค่หลอกให้คุณเอาเงินเข้าไปหมุน เงินที่หมุนอยู่ก็มีทั้งเงินจากเหยื่อรายอื่น เงินจากบัญชีผิดกฎหมาย หรือแม้แต่เงินที่มัน “สร้างตัวเลข” ขึ้นมาเองเพื่อให้คุณดีใจว่าจะได้กำไร อย่าให้กราฟปลอม ๆ ทำให้คุณเผลอกดลงทุน อย่าให้คำว่า “ถอนเมื่อไรก็ได้” หลอกให้คุณคิดว่าปลอดภัย เพราะเมื่อใดที่มันหายไป เงินคุณก็หายไปด้วย—แถมคุณยังถูกดึงเข้าไปในเครือข่ายที่โดนตรวจสอบ แล้วโดนตราหน้าว่า “ร่วมขบวนการฟอกเงิน” โดยที่คุณไม่รู้ตัว

บทสรุปที่ไม่มีคำปลอบใจ

คุณไม่ต้องเป็นคนรวย ไม่ต้องเป็นคนดัง ไม่ต้องมีธุรกิจอะไรทั้งนั้น ถึงจะถูกใช้เป็นเครื่องมือของพวกมันได้ แค่คุณไว้ใจผิดคน แค่คุณเชื่อข้อมูลที่ไม่ตรวจสอบ แค่คุณรับเงินโดยไม่ถามที่มา—แค่นั้นก็พอแล้ว

อย่าปล่อยให้ความไม่รู้ ความเหงา หรือความง่าย ดึงคุณเข้าไปในเงื้อมมือของแก๊งฟอกเงิน พวกคอลเซนเตอร์มันไม่ได้แค่อยากได้เงินคุณ แต่มันจะให้คุณช่วยมันล้างเงินของเหยื่อรายอื่น แล้วให้คุณรับความผิดแทน

ถ้าติดคุกเพราะแค่เชื่อใจผิดคน มันไม่ใช่ความซวย มันคือความไม่ทันเกม และคุณจะไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว