เคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลาเปิด Google Map แล้วดูเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา มันถึง “ดูแปลก ๆ” ราวกับว่าไทยเสียพื้นที่บางส่วนไป หรือบางจุดเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเขตแดนของเขมร? คำถามนี้ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิคของการทำแผนที่เท่านั้น แต่มันเชื่อมโยงกับปมลึกของประวัติศาสตร์การล่าอาณานิคม โดยเฉพาะบทบาทของฝรั่งเศสที่ส่งผลถึงปัจจุบัน แม้จะผ่านไปกว่าร้อยปีแล้วก็ตาม
สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ Google ไม่ได้ใช้แผนที่ 1:50,000 ของประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดยกรมแผนที่ทหารหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของไทย แต่ Google เลือกใช้แผนที่อ้างอิงจากฐานข้อมูลสากล ซึ่งมักจะอิงกับแผนที่ในยุคอาณานิคมที่ฝรั่งเศสสร้างไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยเป็นอาณานิคมของตน เช่น กัมพูชา ลาว และเวียดนาม
ฝรั่งเศสเป็นใคร ไทยเป็นใคร
หลายคนเข้าใจว่า Google Map คือความจริงสูงสุด เพราะใช้งานง่าย เข้าถึงได้ทุกที่ และสามารถดูเส้นอาณาเขตได้ชัดเจน แต่ในทางเทคนิค Google ใช้แนวทางที่เรียกว่า “internationally recognized basemaps” หรือแผนที่ฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งแหล่งข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้มาจากประเทศต้นทางโดยตรงเสมอไป
ในกรณีของเขตแดนไทย-กัมพูชา Google เลือกแสดงเส้นอาณาเขตตามแบบที่ฝรั่งเศสเคยทำไว้ในสมัยที่กัมพูชาอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นช่วงที่เส้นเขตแดนถูกลากขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของฝรั่งเศสเอง ไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักภูมิศาสตร์หรือหลักประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นแต่อย่างใด
กรณีพิพาทเรื่องเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาไม่ได้เพิ่งเกิดในยุคแผนที่ดิจิทัล แต่มีมาตั้งแต่ยุคที่ฝรั่งเศสเข้ายึดครองอินโดจีน แล้วแผ่อิทธิพลเข้ามายังเขมร ซึ่งเคยอยู่ภายใต้อำนาจของสยามมาก่อน ฝรั่งเศสเริ่มวาดเส้นแบ่งเขตแดนใหม่ โดยไม่เคยขอความยินยอมจากฝ่ายไทย และเมื่อเวลาผ่านไป เส้นที่ฝรั่งเศสลากขึ้นมานั้นก็กลายเป็นแผนที่ที่ถูกนำมาใช้เป็นฐานอ้างอิงโดยองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง
เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า มาถึงยุคของ Google Map ปรากฏว่าแผนที่ดิจิทัลที่คนทั่วโลกใช้กัน กลับไปอิงข้อมูลจากฝรั่งเศสแทนที่จะใช้ข้อมูลที่เป็นทางการจากประเทศไทย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเวลาเราเปิดดูอาณาเขตบริเวณเขาพระวิหาร หรือแนวชายแดนอื่น ๆ บางจุดบน Google Map ถึงดู “ผิดไป” จากสิ่งที่เราเรียนหรือเห็นในแผนที่ราชการ
ฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคมมีบทบาทอย่างมากในการกำหนดเขตแดนของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มอินโดจีน ซึ่งรวมถึงเขมรหรือกัมพูชาในปัจจุบัน ฝรั่งเศสใช้วิธีการวาดแผนที่โดยอิงจากผลประโยชน์ของตน ไม่ว่าจะเพื่อควบคุมทรัพยากร หรือเพื่อขัดขวางอิทธิพลของสยามในภูมิภาค
ตัวอย่างหนึ่งคือแผนที่ที่ใช้ในการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารในปี 2505 โดยศาลโลก ซึ่งเป็นแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเอง แล้วฝั่งเขมรก็อ้างใช้ในการฟ้องร้องไทย นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั้งที่ในทางภูมิศาสตร์ ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่บนที่สูงซึ่งต่อเนื่องจากแผ่นดินไทยโดยตรง
คำตอบคือ Google ต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และต้องการใช้ข้อมูลที่ “ได้รับการยอมรับในระดับสากล” ซึ่งก็มักจะหมายถึงแผนที่ที่องค์กรระหว่างประเทศหรืออดีตเจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศสเคยใช้ แน่นอนว่ามันอาจเป็น “กลาง” สำหรับคนทั่วโลก แต่สำหรับประเทศไทย มันไม่ใช่กลางเลย มันคือความอยุติธรรมทางภูมิศาสตร์ที่ยังคงปรากฏอยู่ในยุคดิจิทัล
ประเทศไทยมีแผนที่มาตรฐานระดับสากลขนาด 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร เป็นแผนที่ที่ใช้สำหรับวางยุทธศาสตร์ ป้องกันประเทศ และบริหารราชการแผ่นดิน แผนที่นี้แสดงอาณาเขตที่ไทยยืนยันว่าเป็นของตน และใช้ในการปักหลักเขตชายแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
แต่ในสายตาของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Google หรือองค์กรระหว่างประเทศบางแห่ง แผนที่ไทยไม่ใช่ “ข้อมูลที่น่าเชื่อถือระดับโลก” เพราะไม่มีการประกาศให้ใช้ร่วมกันในเวทีสากลอย่างเป็นทางการ ดังนั้น Google จึงเลือกใช้แผนที่ของฝรั่งเศส หรือแหล่งข้อมูลกลางที่ได้รับการอ้างอิงจากฝ่ายตะวันตก
เมื่อประชาชนทั่วไปเห็นเส้นเขตแดนบน Google Map ที่ไม่ตรงกับของจริง ก็อาจเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าไทยยอมรับอาณาเขตที่แสดงไว้แบบนั้นจริง ๆ หรือในกรณีเลวร้าย อาจมีผลกระทบต่อการเจรจาทางการทูต หรือความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน เพราะข้อมูลจากแผนที่ดิจิทัลอาจถูกใช้เป็นหลักฐานในระดับสากลได้ หากไม่มีการโต้แย้งอย่างเป็นทางการ
ยิ่งไปกว่านั้น Google Map ยังถูกใช้ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั้งระบบนำทาง การค้าชายแดน การพัฒนาที่ดิน และการกำหนดทรัพย์สิน หากข้อมูลพื้นฐานผิดพลาดตั้งแต่เรื่องอาณาเขต ก็อาจทำให้การวางแผนทั้งระบบผิดพลาดไปด้วย
Google Map เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเส้นเขตแดนที่แสดงคือความจริงที่เปลี่ยนไม่ได้ มันคือผลลัพธ์จากการเลือก “ข้อมูลที่เป็นกลางที่สุดสำหรับคนทั้งโลก” ไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดสำหรับคนในพื้นที่นั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลเหล่านั้นอิงกับแผนที่ที่เจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสเคยวาดไว้ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง
เพราะฉะนั้น ก่อนจะเชื่อสิ่งที่เห็นบนหน้าจอ ลองกลับไปดูว่าแหล่งที่มาของข้อมูลคือใคร แล้วใครได้ประโยชน์จากเส้นที่ถูกลากไว้ อเมริกาคือชาตพันธมิตรที่เหนียวแน่นของฝรั่งเศส “ไทยเป็นใคร?” จะสูญเสียอย่างไรมันก็เรื่องของไทย
และถ้าคุณอยากรู้ลึกกว่านี้ รู้จริงยิ่งกว่าที่ Google แสดง…
ขอแนะนำอีบุ๊ค: “ใครผิด ใครต้องรับผิดชอบ ถ้ารู้สาเหตุแล้ว คุณจะอึ้ง”
วางจำหน่ายแล้วที่ Meb และ ปิ่นโตบุ๊ค หนังสือที่จะทำให้คุณเข้าใจทุกเส้นที่ถูกลาก และทุกเรื่องที่ถูกบิด ให้ชัดเจนกว่าที่เคยรู้