ในหนังสือเรียนส่วนใหญ่ สงครามโลกครั้งที่ 1 ดูเหมือนไกลตัวเราเสมอ เพราะมันเริ่มจากประเทศในยุโรป และจบลงโดยที่ชื่อของสยามแทบไม่ปรากฏอยู่ในความทรงจำของโลก กระทั่งคนไทยเองยังไม่ค่อยรู้ว่า “เราเคยไปร่วมรบในสงครามโลก” จริง ๆ หรือไม่ และถ้าไป เราไปร่วมเพราะอะไร บางคนบอกว่าเราไปร่วมเพื่อให้ประเทศมหาอำนาจยอมรับเราในฐานะผู้ชนะสงคราม บางคนบอกว่าเราต้องการลบล้างสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมในยุคล่าอาณานิคม แต่คำถามสำคัญที่หนังสือเล่มนี้หยิบขึ้นมาคือ: แล้วคนที่เดินทางไปจริง ๆ ล่ะ…เขาไปรบเพื่ออะไร?
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เริ่มด้วยชัยชนะ หรือการเจรจาต่อรอง แต่มันเริ่มจากช่วงเวลาที่ “ไม่มีใครบอกคุณ” ว่าทหารอาสาสยามเคยเหยียบแผ่นดินฝรั่งเศสในนามของชาติ โดยที่พวกเขาไม่เคยได้รับการยอมรับเท่ากับชาติอื่น ๆ ที่เข้าร่วมรบ ทั้งที่สิ่งที่พวกเขาทำคือการ “เสี่ยงตาย” ในสงครามของคนอื่น เพื่อให้ชาติของตนรอดจากการถูกกดขี่ในอนาคต การร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงไม่ใช่เรื่องของความกล้าหาญแบบในนิยาย แต่มันคือการยอมเจ็บ ยอมเหนื่อย ยอมตาย โดยไม่มีใครสัญญาอะไรให้
บริบทของสงครามโลกไม่ได้เกิดขึ้นใน vacuum แต่เกิดขึ้นในช่วงที่จักรวรรดินิยมกำลังแผ่อิทธิพลไปทั่วโลก ประเทศอย่างสยามในเวลานั้นพยายามหาทางอยู่รอด โดยไม่ตกเป็นอาณานิคมของใคร การ “ไปร่วมสงคราม” จึงไม่ใช่แค่การไปรบ แต่มันคือการส่งสัญญาณว่าเรามีตัวตน และเราพร้อมจะยืนข้างผู้ชนะในเวทีโลก หนังสือเล่มนี้จะพาคุณเจาะลึกว่า การตัดสินใจครั้งนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมมากมายขนาดไหน และทำไมการส่งทหารอาสาไปยุโรปจึงถือเป็น “เดิมพันครั้งสำคัญ” ของผู้นำสยามในยุคนั้น
คำว่า “อาสา” ที่เราได้ยินบ่อย ๆ อาจฟังดูสวยงาม แต่มันมักแปลว่าคนเหล่านั้นไม่ได้รับสิทธิ์เท่ากับทหารประจำการของประเทศอื่น พวกเขาไม่ได้รับการฝึกเท่า พวกเขาไม่ได้รับการดูแลหลังสงครามในแบบเดียวกัน และเมื่อสงครามจบ พวกเขาไม่ได้มีที่ยืนในประวัติศาสตร์อย่างที่ควรจะเป็น หนังสือเล่มนี้จะพาคุณย้อนดูชื่อและตัวตนของชายไทยหลายร้อยคนที่เคยถูกส่งไปร่วมสงครามโลกกลางแผ่นดินฝรั่งเศส พร้อมกับคำถามว่า…แล้วเราลืมพวกเขาได้ยังไง?
หนึ่งในประโยคที่ทรงพลังที่สุดของหนังสือคือ “สงครามสงบแล้ว ตอนสยามไปถึง” แต่นั่นไม่ได้แปลว่าไม่มีใครตายหลังจากนั้น ทหารอาสาสยามเดินทางไปยุโรปในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1 และต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ไม่เคยเจอ ภาษาที่ไม่เข้าใจ งานที่ไม่รู้จัก และสงครามที่ไม่ใช่ของพวกเขา ทว่าพวกเขายังยืนหยัดทำหน้าที่ในนามของประเทศ และหลายคนไม่ได้กลับมา บางคนตายโดยไม่มีศพกลับบ้าน บางคนอยู่ต่อโดยไม่มีประวัติกลับสู่ตำราใด ๆ ทั้งสิ้น
แม้ชื่อของพวกเขาจะเลือนหายจากความทรงจำของคนส่วนใหญ่ แต่หนังสือเล่มนี้จะพาคุณย้อนรอยว่าสิ่งที่ทหารอาสาสยามทำไว้ ส่งผลต่ออนาคตของสยามแค่ไหน เราอาจไม่ได้ถูกกลืน เราอาจไม่ต้องเสียเอกราช เราอาจได้พื้นที่ยืนในเวทีโลก เพราะมีคนบางกลุ่มที่ยอมไป “ยืนแทนเรา” ในสนามรบกลางแผ่นดินยุโรป แม้จะไม่มีใครจำชื่อพวกเขาได้ก็ตาม
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นด้วยน้ำเสียงของคนที่ไม่ต้องการสรุปอะไรให้เสร็จสิ้น แต่ต้องการให้คนอ่านกลับไปตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าเรารู้จักสงครามโลกดีแค่ไหน เราเคยรู้ไหมว่า “เลือดไทย” เคยหลั่งกลางป่าฝรั่งเศสเพื่อการยอมรับจากนานาชาติ และเราตอบแทนการเสียสละนั้นด้วยอะไร หนังสือไม่ได้เขียนแบบเป็นวิชาการ แต่มันเล่าแบบที่คนรุ่นใหม่จะเข้าใจ และอาจเจ็บปวดไปพร้อมกัน เพราะมันคือเรื่องจริงที่เราอาจไม่เคยรู้เลยว่ามันเคยเกิดขึ้น
อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะเปลี่ยนใจ มันจะทำให้คุณเห็นว่าสงครามโลกไม่ใช่เรื่องของ “โลกอื่น” แต่มันอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเราจริง ๆ เพียงแต่เราอาจไม่เคยมองเข้าไปให้ลึกพอ มันจะทำให้คุณกลับไปตั้งคำถามกับคำว่า “เท่าเทียม” และ “เอกราช” ว่าเราต้องแลกอะไรมาบ้างกว่าจะได้มันมา และใครที่เคยเสียอะไรไปบ้างเพื่อให้เรายืนอยู่ได้อย่างที่เราเป็นทุกวันนี้
คือหนังสือสารคดีประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้บอกแค่ข้อเท็จจริง แต่พาให้เรากลับไปเจอกับความรู้สึกของคนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์จริง คนที่เคยตัดสินใจเดินทางไปอีกซีกโลก ทั้งที่รู้ว่าตัวเองอาจไม่ได้กลับมา มันคือหนังสือที่เหมาะกับคนที่อยากรู้ว่าประวัติศาสตร์ของเราถูกเขียนไว้โดยใคร และใครที่ถูกลืมไปจากหน้ากระดาษเหล่านั้น