นักเขียนมือใหม่หรือมือเก๋า ถ้าอยากให้ “นิยาย” หลอนจนคนอ่านวางไม่ลง ต้องรู้จักเล่นกับ “จังหวะ ความกลัว และความไม่แน่นอน” เวลาเรานึกถึงนิยายสยองขวัญหรือนิยายระทึกขวัญที่ทำให้ต้องอ่านรวดเดียวจบ ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องมันเหนือจริงหรือเล่าเรื่องผีให้หลอนที่สุดเท่าที่จะคิดได้ แต่เพราะ “นักเขียน” รู้ว่าต้องวางจังหวะยังไงให้คนอ่าน อินก่อนกลัว เชื่อก่อนระแวง และเงียบก่อนผวา นี่คือหัวใจของเทคนิคการเขียนที่ไม่ได้อยู่ที่เนื้อเรื่อง แต่มันคือ จังหวะและบรรยากาศ
หลอนแบบไม่ต้องใช้ผี…แค่ใช้ “เวลา” ให้ถูกต้อง
จุดที่นักเขียนส่วนใหญ่พลาดคือพยายามยัดฉากหลอนใส่คนอ่านอย่างรีบร้อน โดยลืมว่า “ความกลัว” ไม่ได้เกิดจากการบอกว่าผีมา แต่มันเกิดจากการไม่รู้ว่าอะไรจะมา มันคือช่องว่างระหว่างบรรทัดที่เงียบจนรู้สึกได้ยินเสียงหัวใจตัวละคร การเขียนนิยายให้หลอน ต้องรู้จักใช้ “เวลา” ในการพาคนอ่านไปอยู่ในฉาก พวกเขาต้องได้ยินเสียงรองเท้าลากพื้น รู้สึกถึงลมหายใจรดต้นคอ หรือเห็นเงาบางอย่างไหลผ่านขอบตาแบบไม่ชัดเจน เทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำเยอะ แค่ต้องรู้ว่าควรดึงช่วงเวลาไหนให้ช้า และควรเร่งตอนไหนให้เหมือนกำลังหนีตาย
และยิ่งถ้าเขียนเป็นบทภาพยนตร์ จังหวะพวกนี้คือหัวใจของการเล่าเรื่องผ่านภาพ นักเขียนบทที่ดีจะรู้ว่ากล้องควรอยู่ตรงไหน มุมไหนถึงจะทำให้คนดูรู้สึก “เหมือนถูกจับตามอง” แม้ในฉากที่ไม่มีใครอยู่เลยก็ตาม
อยากให้คนอ่านรู้สึกกลัว ต้องให้เขา “เชื่อก่อน”
“นักเขียนนิยาย” หลายคนพยายามใช้ “สิ่งเหนือธรรมชาติ” เป็นตัวหลักในการสร้างความตื่นเต้น แต่มันจะไม่ได้ผลเลยถ้าคนอ่านไม่อินกับสิ่งที่ตัวละครเจอ ดังนั้นก่อนจะพาไปหลอน เราต้องพาคนอ่านไปเข้าใจโลกของตัวละครก่อน ต้องรู้สึกว่า “เออ ถ้าเป็นฉันอยู่ตรงนั้น ฉันก็คงกลัว” นี่คืองานของฉาก งานของบรรยากาศ งานของรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น แสงไฟกะพริบ กลิ่นอับ เสียงที่ไม่ได้ยินชัด หรือแม้แต่ความเงียบที่ผิดปกติ
บางครั้งสิ่งที่ทำให้คนอ่านกลัว ไม่ใช่เพราะพวกเขาเห็นผี แต่เพราะพวกเขา คิดว่าผีอาจจะอยู่ตรงนั้น การดึงอารมณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่นักเขียนต้องฝึก ยิ่งฝึกยิ่งแม่น ยิ่งแม่นยิ่งหลอกได้แนบเนียน
อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากคือ “การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของตัวละคร” โดยเฉพาะในนิยายที่เล่าเรื่องผ่านคนธรรมดา ไม่ใช่คนกล้า ไม่ใช่นักล่า ไม่ใช่ตัวละครเทพ แต่เป็นคนที่เหมือนเรา ๆ นี่แหละ เพราะถ้าคนธรรมดากลายเป็นคนที่ทำอะไรผิดปกติ เช่น เริ่มพูดคนเดียว เริ่มเห็นอะไรแปลก ๆ หรือเริ่มไม่เชื่อใครเลย คนอ่านจะเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยไปพร้อมกัน
เทคนิคง่าย ๆ ที่นักเขียนทุกคนควรรู้
นิยายที่ดีไม่ใช่แค่เขียนให้หลอน แต่ต้องเขียนให้ “หยุดคิดไม่ได้”
เทคนิคพวกนี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่มันคือของที่นักเขียนมักมองข้าม เพราะมัวแต่ห่วงว่าจะเขียนเรื่องให้จบไว ทำให้ฉากดี ๆ กลายเป็นแค่ทางผ่าน ถ้าเราอยากให้นิยายของเราดึงดูดผู้อ่านได้นาน ให้พวกเขาอยู่กับเราจนจบเล่ม ต้องเขียนให้ “รู้สึกจริง” ไม่ใช่แค่ “อ่านผ่าน ๆ” และการเขียนให้รู้สึกแบบนั้นได้ มันต้องฝึก ต้องอ่านเยอะ ต้องลองผิดลองถูก ต้องรู้จักจังหวะ ต้องกล้าทิ้งบางอย่าง และต้องมั่นใจว่า “ความกลัวของคนอ่าน” จะเกิดขึ้นเอง โดยไม่ต้องบอกว่า “กลัวนะ”นักเขียนที่อยากให้คนอ่านรู้สึก “กลัวแบบอยู่ในนั้นจริง ๆ” ต้องเริ่มตรงไหน?
เขียนนิยายให้หลอน ตื่นเต้น และคนอ่านไม่กล้าปิดหนังสือ: เทคนิคที่ไม่ใช่แค่ “กลัว”
นิยายที่ทำให้คนอ่านรู้สึกกลัว ต้องกลัวจากข้างใน ไม่ใช่เพราะมีผีโผล่มาตกใจ
อยากให้คนอ่านนิยายกลัวจนวางไม่ลง ต้องไม่เขียนแบบคนไม่รู้สึกอะไร
ถ้านิยายของคุณไม่มีแรงดึง คนอ่านจะหลุดออกจากเรื่องตั้งแต่ยังไม่ถึงหน้าที่ 10
นักเขียนที่อยากให้คนอ่านลืมหายใจ ต้องกล้าเขียนด้วยอารมณ์ที่กลัวจริง
นักเขียนกับภารกิจสั่นประสาท: เขียนยังไงให้ผู้อ่านกลัวแต่ไม่หนี
นักเขียนจะเขียนความกลัวให้น่ากลัวได้จริง ต้องกล้าดูความกลัวของตัวเองก่อน
กลิ่นหลอนที่แทรกอยู่ในนิยาย ไม่ใช่เสียงกรีดร้อง แต่คือจังหวะเงียบที่กดหัวใจ
ความกลัวในนิยาย ไม่ได้ซ่อนอยู่ในความมืด แต่มันซ่อนอยู่ในความจริงที่เราไม่กล้ายอมรับ
เราทำหนังสือสำหรับคนที่กำลังตั้งคำถามกับชีวิต
ไม่ใช่เพื่อให้ได้คำตอบทันที แต่เพื่อช่วยให้ใจคุณค่อย ๆ มั่นคงขึ้นทีละนิด
หนังสือของเราอาจไม่ใช่ทางลัด แต่มันคือแสงไฟเล็ก ๆ ที่คุณจะได้หยิบติดมือไว้ ในวันที่เส้นทางมันมืดและเหนื่อย
บางเล่มอาจพูดถึงอดีตที่ยังค้างในใจ
บางเล่มอาจช่วยให้คุณเข้าใจความสัมพันธ์ที่เปราะบาง
บางเล่มอาจเป็นแค่บทสนทนาเงียบ ๆ ระหว่างคุณกับตัวเอง
เราเชื่อว่า การเยียวยาไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ บางครั้งแค่มีถ้อยคำที่พูดแทนใจได้ ก็พอแล้ว
Pararin Publishing – เราทำหนังสือเพื่อให้คุณยังเดินต่อไปได้…อย่างไม่ต้องเร่งรีบ