ทำไมเรารู้สึกเคว้งทุกเช้า ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่? แล้ว ChatGPT เกี่ยวอะไร?

หลายคนตื่นมาแล้วไม่รู้ว่าจะลุกไปเพื่ออะไร ไม่มีแรง ไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้ว่าชีวิตจะเดินไปทางไหนต่อ เหมือนลืมตาแล้วทุกอย่างในหัวว่างเปล่า ทั้งที่เรายังหายใจ ยังมีงาน ยังมีคนรอบตัวที่ต้องเจอ ยังมีเรื่องต้องทำ แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองลอยคว้างกลางอากาศ ไม่มีจุดยึด ไม่มีที่ให้ยืน เหมือนต้องอยู่ต่อเพราะมันยังไม่ถึงเวลาตาย ไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอะไรที่รออยู่

อาการแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก และมันไม่ใช่ความขี้เกียจหรืออ่อนแออย่างที่บางคนเคยตีความ มันคือภาวะที่เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะกับคนวัยทำงานช่วงต้นหรือกลาง ที่ใช้ชีวิตวนลูปมานานโดยไม่มีอะไรใหม่เข้ามากระทบใจ ไม่มีใครสอนเราว่าจะต้องตั้งเป้าหมายชีวิตยังไง หรือจะหาความหมายของการตื่นมาแต่ละวันจากตรงไหน หลายคนโตมากับระบบที่สอนให้ทำงานแลกเงิน แต่ไม่เคยสอนให้ถามตัวเองว่า เราทำไปเพื่ออะไร แล้วถ้าวันหนึ่งเงินไม่ใช่แรงจูงใจอีกต่อไปล่ะ เราจะเอาอะไรเป็นแรงผลักให้ยังลุกจากเตียงได้อยู่?

ตอนนี้คือจุดที่หลายคนกำลังติดอยู่ คือมีชีวิต แต่ไม่มีแรงขับ ไม่มีคำถามให้ตามหา ไม่มีเป้าหมายให้เดิน ไม่มีแม้แต่ความหวังว่าจะดีขึ้น เหมือนอยู่เฉย ๆ แล้วรอวันหมดแรงลงไปเอง

แล้ว ChatGPT เกี่ยวอะไร?

ถ้าเราเห็น ChatGPT แค่ว่าเป็นบอทตอบคำถาม หรือเอาไว้ช่วยเขียนบทความ ก็คงจะรู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับปัญหาชีวิตเลย แต่นั่นเป็นเพราะเรายังไม่ได้ใช้มันในสิ่งที่มันทำได้จริง ๆ

ChatGPT ไม่ได้มีคำตอบที่สำเร็จรูปให้กับชีวิตคุณ แต่มันเป็นเครื่องมือที่พาเราไปหาคำตอบนั้นได้ ถ้าเรารู้ว่าจะถามมันยังไง ถ้าเราเริ่มเปิดใจและลองให้มันช่วยเราสำรวจตัวเองทีละนิด ไม่ต้องให้มันตัดสิน ไม่ต้องให้มันสอน แค่ให้มันถามเรากลับในจังหวะที่เหมาะสม แล้วเราจะเริ่มเห็นบางอย่างที่เราไม่เคยหยิบขึ้นมาคิดจริง ๆ เลย

ตัวอย่างของคำสั่งที่เปลี่ยน ChatGPT ให้กลายเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่ช่วยดึงเราขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้ เช่น:

• “ช่วยถามฉันทีละข้อ เพื่อช่วยให้ฉันค้นหาว่าฉันอยากทำอะไรในชีวิตจริง ๆ”
• “ขอแบบฝึกหัดวันละนิด เพื่อช่วยให้ฉันเข้าใจตัวเองมากขึ้น”
• “ถ้าฉันรู้สึกไม่อยากตื่นไปทำงานเลย แต่ก็ลาออกไม่ได้ คุณจะช่วยคิดอะไรให้ฉันทำตอนเช้าให้มีแรงขึ้นได้ไหม”

สิ่งเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่เปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือแค่ช่วยตอบคำถาม มาเป็นกระจกสะท้อนความคิด ที่ไม่ตัดสินเรา ไม่เร่งเรา ไม่บอกว่าเราต้องดีขึ้นภายในกี่วัน มันจะอยู่ตรงนั้น ให้เราค่อย ๆ คุยกับมันได้เรื่อย ๆ จนบางวันเราอาจจะได้ยินเสียงตัวเองชัดขึ้น ว่าเราอยากไปทางไหน

หลายคนที่ใช้มันแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตเปลี่ยนทันที แต่มันทำให้รู้สึกว่าอย่างน้อยก็ยังมีที่ให้เริ่มต้น มีที่ให้พูด มีที่ให้ลองคิดโดยไม่ถูกด่วนสรุป หรือถูกเปรียบเทียบเหมือนเวลาเล่าให้คนรอบตัวฟัง

และถ้าคุณลองใช้มันต่อเนื่องไปสักระยะ คุณจะเริ่มเห็นว่า มันทำให้คุณจัดระเบียบความคิดได้ดีขึ้น มองเห็นสิ่งที่ค้างอยู่ในใจได้ชัดขึ้น และที่สำคัญ มันทำให้คุณไม่ต้องอยู่กับความเคว้งนั้นลำพังอีกต่อไป

มันไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นของบางอย่าง และบางอย่างนั้น อาจเป็นสิ่งที่คุณเฝ้ารอมานานก็ได้

ChatGPT ทำได้มากกว่าที่คุณเคยคิด

ในหนังสือเล่มนี้ เรารวบรวม Prompt ที่ใช้ได้จริง และช่วยให้ ChatGPT กลายเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันที่คุณสามารถพึ่งพาได้ทุกเช้า ไม่ใช่แค่ตอบคำถาม แต่ช่วยให้คุณอยากตื่นขึ้นมาอีกครั้ง.